วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560

มารู้จักแมคกัน

                            

MACINTOSH

 บริษัท แอปเปิล คอมพิวเตอร์ อิงค์ (สหรัฐอเมริกา) ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ด้วยการนำเครื่อง พีซีส่วนบุคคลตระกูล Apple II ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี 1970 ตามด้วยเครื่องพีซีตระกูล Macintosh ซึ่งนำออกวางตลาดในปี 1980


1. นำไปใช้งานด้านกราฟิก

2. ออกแบบและจัดแต่งเอกสารและนิยมใช้ในสำนักพิมพ์ต่าง ๆ

Mac OS X นั้นไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่มีความเสถียรที่สูงกว่า Windows


Mac OS X อ่านว่า แมคโอเอส เทน (ตัว X แทนหมายเลข 10 ของตัวเลขโรมัน) เป็นระบบปฏิบัติการของเครื่อง Macintosh ที่ออกแบบมาให้มีเสถียรภาพสูง ใช้งานง่ายหากสังเกตุก็จะพบว่าหน้าจองของ Mac OS X นั้นเกลี้ยงเกลา ไม่มีอะไรให้รกหูรกตา มีปุ่มหรือเครื่องมือเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น หน้าจอถึงดูสะอาด เรียบหรู และดูดี

ปี 2001 บริษัท Apple ก็ได้เปิดตัว Mac OS X เวอร์ชันแรกออกมา คือ Mac Os X 10.0 โดยมีอีกชื่อหนึ่งว่า Cheetah (ชีต้าร์)

เดือนกันยายนของปีเดียวกัน ได้ออกเวอร์ชันใหม่ คือ Mac OS X 10.1 หรืออีกชื่อว่า Puma (พรูม่า) ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ประสบความสำเร็จและผลตอบรับเป็นอย่างดี


ในอีกหนึ่งปีต่อมา ได้เปิดตัว Mac OS X 10.2 หรือ Jaguar
(จากัวร์)
ก็ได้กำเนิดขึ้นในเดือน สิงหาคม ปี 2002 โดยเวอร์ชันนี้ได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติหลายประการ เช่น สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายของ Microsoft ได้ นำเสนอโปรแกรม iChat สำหรับการสื่อสารแบบออนไลน์ ใช้เทคโนโลยี Quartz Extreme สำหรับการแสดงผลบนหน้าจอ ฯลฯ โดยเวอร์ชั่นนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Mac OS Xเป็นอย่างมาก

ในเดือนตุลาคม ปี 2003 ทาง Apple ได้เปิดตัว Mac OS X 10.3 หรือ Panther (พาลเทียร์) ซึ่งได้ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพหลายอย่าง เช่นการนำเสนอ Expose การปรับปรุง iChat การสื่อสารแบบเห็นหน้าตากันได้ รวมถึงโปรแกรมท่องเว็บอย่าง Safari ฯลฯ

ในเดือนเมษา ปี2005 Mac OS X 10.4 หรือ Tiger ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยความสามารถที่เพิ่มขึ้นกว่ารุ่นเดิมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวระบบอัตโนมัติ ปรับปรุง iChat รวมถึงการเปิดตัว VoiceOver ที่สามารถออกเสียงขณะใช้งานได้

ปี 2007 ได้พบกับระบบปฏิบัติการบน Macintosh ตัวใหม่ ซึ่งมีชื่อว่า Mac OS X Leopard (ลีโอแพท) โดยการพัฒนาหลายด้าน เช่น การย้อนเวลากลับไปกู้ข้อมูลด้วย Time Machine มีการจัดสรรหน้าจอโดยใช้ Spaces รวมถึงการปรับปรุง iChat ให้สามารถแชร์หน้าจอผ่านอินเทอร์เน็ต ฯลฯ คาดหมายกันว่า Leopard จะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดของ Windows Vista เลยทีเดียว แต่ผลตอบรับของ Windows mVista ก็มีเสียงตอบกลับมาค่อนข้างแย่ ซึ่งทำให้ Leopard สามารถกินขาดได้อย่างสบายๆ

ในปี 2009 เดือนกันยายน Mac OS X ก็ได้เปิดตัว ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นตัวที่ 6 ก็คือ Mac OS X 10.6 หรืออีกชื่อว่า Snow Leopard ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับ Leopard แต่มีการพัฒนาการทำงานหลายอย่าง และคอมพิวเตอร์ เครื่อง Macintosh ก็ได้ใช้ Snow Leopard มาจนถึงทุกวันนี้

1. ช่วยทำในสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ จะมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการนำภาพถ่าย เพลง หรือวิดีโอ ไปใช้ทำโปรเจ็กต์ตามที่เราต้องการ

2. ดีไซน์ที่น่าสนใจ ด้วยสไตล์การออกแบบของแอปเปิลที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ไล่ตั้งแต่ภาพลักษณ์ภายนอกไปจนถึงระบบกราฟิกที่สวยงามของ Mac OS X

3. มีไวรัส 114,000 ตัวที่ไม่เล่นงานแมค Mac OS X ถูกออกแบบมาด้วยการยึดถือเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญตั้งแต่ต้น ในขณะที่วินโดวส์ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อต้านทานการโจมตีของภัยร้ายต่าง ๆ

4. ทำงานกับภาพถ่ายได้อย่างเพลิดเพลิน สามารถทำได้ใน iPhoto ที่สามารถดึงภาพถ่ายไปใช้ในงานอื่น ๆ ก็ทำได้อย่างสะดวก


5. สะดวกในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่าย แมคไม่เพียงแต่มีอีเทอร์เน็ตในตัวแต่ยังมีเสาสัญญาณของเครือข่ายไร้สาย (ในรุ่นใหม่ ๆ)

8. ไม่ต้องเหนื่อยกับการควานหาไดรเวอร์ เพียงแค่เสียบอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับแมค คุณก็พร้อมใช้งานได้เลย เพราะแมคจะมีไดรเวอร์ยูเอสบีของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล กล้องดิจิตอล อุปกรณ์อินพุต iPod และอื่น ๆ อีกมากมายอยู่ในตัว

 

OS X เรียกว่าอะไร?


สำหรับ OS X เท่าที่เคยได้ยินเรียกๆ กัน จะมีสองแบบคือ โอเอสเอ็ก(OS X) กับ โอเอสเทน(OS ten)  ซึ่งทาง Apple เองจะให้อ่านแบบหลังคือ OS ten โดย X จะเป็นเลขโรมันที่หมายถึงแลข 10 โดยจะเป็นเวอร์ชั่นปัจุจะบันคือ 10.8 (Mountain Lion) ส่วนการเรียกแบบ OS X นั้นตัว X เองจะเป็นคำที่เชื่อมโยงไปความหมายของ UNIX ที่มี X Window System (X11) เป็นตัวจัดการหน้าต่าง (Windows Management) ซึ่งเป็นระบบปฎิติการที่ OS X พัฒนาต่อยอดออกมา

Version ต่าง ๆ ของ OS X

10.0  Cheetah – 24 มีนาคม, 2001
10.1  Puma – 25 กันยายน 2001
10.2  Jaguar – 23 สิงหาคม 2002
10.3  Panther – 24 ตุลาคม 2003
10.4  Tiger – 29 เมษายน 2005
10.5  Leopard – 26 ตุลาคม 2007
10.6  Snow Leopard – 28 สิงหาคม 2009
10.7  Lion – 20 กรกฎาคม 2011
10.8 Mountain Lion – 25 กรกฎาคม 2012

 


 ทำไมต้องเปลี่ยนมาใช้ OS X

ร้านเกี่ยวกับการับออกแบบกราฟฟิค ซึ่งลูกค้าก็จะก๊อปปี้ไฟล์มาทางโทรศัพท์บ้าง แฟรชไดร์บ้าง ซึ่งแน่นอนเต็มไปด้วยไวรัส เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่ค่อยจะเก่งเรื่องไอทีสักเท่าไหร แต่จะเก่งไปทางการถ่ายรูปซะมาก นั้นแปลว่าเครื่องของเพื่อนคนนี้จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยไวรัสนานาชนิดเรียกได้ ว่า Anti-Virus พร้อมลิขสิทธ์ถูกต้องยังเอาไม่อยู่ ต้องลงเครื่องใหม่กันอยู่ตลอด

ซึ่งความจริงอันหนึ่งเกี่ยวกับไวรัส (Virus) ก็คือไวรัสจะไม่ข้ามสายพันธุ์ คือถ้าไวรัสนี้ถูกสร้างมาเพื่อ Microsoft Windows ก็จะใช้ได้กับ Windows เท่านั้น แม้กระทั่ง Virus ที่อยู่ใน Macro ของ Microsoft Office เองที่ถูกสร้างมาเพื่อทำงานบน Windows ก็จะไม่สามารถทำงานได้บน Microsoft Office บน Mac ได้ นั้นหมายความว่าถ้าคนนี้ใช้งาน Adobe Photoshop บน Mac แล้วลูกค้าใช้ Microsoft Windows ซึ่งเป็นคนละระบบปฎิบัติการกันก็จะไม่สามารถติดไว้รัสได้ แต่แน่นอนว่าไวรัสนั้นยังอยู่บนแฟรชไดร์ซึ่งยังสามารถแพร่ต่อไปได้อีก

 

ทำไม Mac ไม่มีไวรัส

หนึ่งในหลาย ๆ เหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญตอบตรงกันว่าทำไม Mac ถึงไม่มีไวรัสก็คือมีคนใช้งาน Mac น้อยมากเมื่อเทียบกับ Microsoft Windows จึงอาจไม่มี Hacker คนไหนสนใจพัฒนา Virus ขึ้นมาเพราะอาจจะไม่คุ้มกับการลงทุนลงแรง แต่ในทางผู้ให้บริการเครื่อง Server จะกลับกันไวรัสหรือวิธีเจาะระบบบน Linux ที่ทำหน้าที่ Sever นั้นจะเยอะมากและหาได้ง่ายเรียกได้ว่าเด็กนักเรียนพึ่งหัดเล่นคอมใหม่ๆ ก็สามารถ ​Hack กันได้ง่าย ๆ ด้วยซอฟแวร์สำเร็จรูปต่าง  ๆ เพราะ Server จะใช้ Linux ซะเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้ให้บริการที่ให้เช่าเครื่อง (hosting)  ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าไม่มีอะไรรอดไปได้ถ้าเหล่า Hacker ต้องการจะเจาะซะอย่าง
 

ข้อดีของ Mac OS X

  • ความเสถียร เนื่องจาก OS X พัฒนามาจาก UNIX ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการที่มีความเสถียรและความปลอดภัยสูงอยู่แล้วทำให้ OS X ไดรับอานิสงส์นี้ด้วย
  • ไม่วุ่นวายกับการป้องกันการก๊อปปี้ ถ้าใครเคยลง Mac OS X จะสังเกตุได้ว่าจะไม่มีการถามถึง CD-Key, Register, Activate หรือการกระทำใด ๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องของจิตสำนึกของเราเองที่จะไม่ละเมิด ลิขสิทธิ์
  • มีซอฟแวร์ดี ๆ ติดมาด้วยเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Mail, GarageBand และสำหรับผู้เขียนเองขอบ Xcode มากที่ใช้สำหรับพัฒนาซอฟแวร์ iPhone ซึ่งสามารถดาวโหลดได้ฟรี และส่วนที่เป็น App Store บน Mac ที่ทำงานแบบเดียวกับใน iPhone ที่จะช่วยให้ดาวโหลดซอฟแวร์ได้ง่ายและรับประกันความปลอดภัยของซอฟแวร์ได้ ระดับดีทีเดียว

ข้อควรระวังสำหรับการตัดสินใจใช้ Mac OS X

  • ตรวจสอบให้ดีว่าแซฟแวร์ที่จำเป็นต้องใช้บน Windows มีเวอร์ชั่นสำหรับ Mac ไม่งั้นจะค่อยข้างลำบากทีเดียวกับการต้องเปลี่ยนซอฟแวร์ใหม่เพื่อทำงาน หรือถ้าโชคร้ายอาจหาอะไรที่จะมาแทนไม่ได้เลยทีเดียว
  • อุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าอุปกรณ์ที่จะนำมาต่อพ่วงไม่ว่าจะเป็น Printer หรืออุปกรณ์อื่นๆ สามารถใช้งานได้บน ​Mac หรือมี Driver สำหรับ Mac

  ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sbaynews.in.th

ttgraphiccom@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น